วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คติประจำวันนี้

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ไม่เคี้ยวคดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

สอนให้รักตัวเองก่อนนะคะ
ก่อนจะไปรักใคร จงซื่อสัตย์และจงเชื่อมั่นในตนเองเสมอ
อย่ารักใครหรือหวังดีกับใครจนลืมตัวของเราเองนะคะ

สำคัญเสมอ เพราะเจ็บกับเรื่องแบบนี้ตลอดจริง ๆ

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กรรมดีคืออะไร

กรรมดี คืออะไร

กรรมดี คือการทำความดีประเภทต่าง ๆ นะคะ
ไม่ใช่แค่ว่าเป็นการทำบุญ ทำทาน
สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ภาวนาแค่นั้นนะคะ
แต่เป็นการทำความดีซึ่งเกิดขึ้นมา
เพราะต้องการเห็นผู้อื่นพ้นทุกข์
หรือการช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
แค่อยู่เฉย ๆ ไม่อาฆาตพยาบาทก็เป็นการสร้างกรรมดีแล้วค่ะ

หรือแม้แต่คนที่มีศัตรู หรือคู่อาฆาต
หรือคนที่เค้าทำให้เราเจ็บช้ำ แต่เราไม่อาฆาตเค้า
เราให้อภัย และอโหสิกรรมให้
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการสร้างกรรมดีนะคะ

และกรรมดีครอบคลุมถึงอะไรบ้าง
แม้แต่การเปลี่ยนน้ำหน้าพระ ทำความสะอาดหิ้งพระ
การดูแลบุพการี การเลี้ยงดูบุตรตามหน้าที่ และกำลังความสามารถ
หรือการทำหน้าที่เป็นคนในสังคมที่ดี
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกรรมดีนะคะ

ไม่จำเป็นต้องเป็นการสวดมนต์
การไหว้พระ หรือการนั่งสมาธิหรอกนะคะ
แต่การสวดมนต์ หรือการนั่งสมาธิ เป็นการทำบุญขั้นสูงค่ะ
เป็นการทำบุญที่เราเรียกกันว่า "ปฏิบัติบูชาค่ะ"
ไม่ต้องใช้เงินตรา แค่พาสังขารนี้ไปนมัสการพระรัตนตรัย
แค่นั้นเองค่ะ และสิ่งที่เราได้รับกลับมาก็คือ "สติ และปัญญา"

กรรมดีมีมากมายนะคะ
แค่เราไม่คิดร้ายกับผู้อื่น
ไม่อิจฉาริษยา ไม่อยากได้ในสมบัติของผู้อื่น
ไม่นอกใจ นอกใจคู่สมรส
ไม่โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล
หรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งปวง
สิ่งเหล่านี้ล้วนครอบคลุมกิจวัตรประจำวันของเราหลาย ๆ คนนะคะ

กรรมดีไม่จำเป็นต้องเข้าวัดค่ะ
ขอแค่ทำความเข้าใจกับธรรมะนะคะ
เพราะ "ธรรมะ คือ ธรรมชาติ" ค่ะ
ไม่ใช่การฝืนธรรมชาติ หรือฝืนการเป็นตัวเรานะคะ
ทำอะไรที่เป็นปกติ และไม่ละเมิดผู้อื่น
แค่นี้ก็เป็นการสร้างกรรมดีแล้วนะคะ

การแก้กรรม ใช้เวลานานไม๊

คำถามนี้มักจะเกิดขึ้นสำหรับหลาย ๆ คน
ที่ดวงตกแล้ว หรือเริ่มจะตก หรือเริ่มมีปัญหามากมาย
หรือทำอะไรแล้วติด ๆ ขัด เกือบจะทั้งนั้น

โดยปกติแล้วสำหรับหนทางในการแก้ไขกรรมนั้น
คือการสร้างกรรมใหม่ซึ่งเป็นกรรมดีขึ้นมา
เพื่อบรรเทากรรมเก่าซึ่งกำลังส่งผลอยู่ในปัจจุบันนะคะ
และกรรมใหม่ซึ่งเป็นกรรมดีเนี่ย กว่าจะส่งผลต้องใช้เวลาค่ะ
เพราะกว่าที่เราจะดวงตก หรือกว่าที่เราจะพบเจอปัญหา
หรือกว่าที่ปัญหามันจะพอกจนมากมายขนาดนี้แล้ว
มันก็ต้องใช้เวลาด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ตอนนั้นเราไม่ได้เอะใจค่ะ
เราไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น หรือเราอาจจะหลงมัวเมากับทางโลกมากไป
หรือจะด้วยผลแห่งกรรมเก่าปิดบังไว้ ทำให้เราไม่เอะใจ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุแห่งความประมาททั้งสิ้นนะคะ
และกรรมดีกว่าจะส่งผลก็ต้องใช้เวลาเช่นเดียวกันค่ะ
ถ้าทำบ่อย ๆ ทำทุกวัน ทุกอาทิตย์หรือทุกเดือน
ก็อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน 3 เดือนหรือ 1 ปี
ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการทำความดีนั้น ๆ นะคะ

จำไว้นะคะสำหรับทุกท่านที่ดวงตก
ท่านจะต้องอดทน เพียรพยายามสร้างความดี
และต้องรอคอยเวลาให้ความดีส่งผลนะคะ
โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปบนบานศาลกล่าวหรอกค่ะ
เพราะการบน ยิ่งจะทำให้เราติดขัดหนักกว่าเดิมนะคะ
และเป็นหนทางแห่งคนที่ไม่มีสติปัญญาค่ะ

ยิ่งบน ยิ่งเจอปัญหานะคะ
ยิ่งติดขัด ยิ่งเจอทางตันค่ะ
และที่สำคัญถ้าบนแล้วจะไม่ได้
งานนี้ต้องแก้เรื่องการติดสินบนอีกด้วยนะคะ

ทางที่ดีควรเพียรสร้างกรรมดีไปเรื่อย ๆ ดีกว่านะคะ

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รัก คือ ทำให้ดีที่สุด แล้วปล่อย

หลาย ๆ คนดิ้นรน ค้นหาความรักที่แท้จริง
อยากจะบอกให้ทุก ๆ คนได้รู้ว่า
ความรักที่แท้จริง คือ รักที่บริสุทธิ์
รักที่ เป็น การให้
และ รัก ที่ได้เห็น คนรักมีความสุข

ไม่ใช่สมัยนี้ ตอนนี้ที่ความหมายของความรักได้เปลี่ยนไปแล้ว
รัก คือ การครอบครอง การแย่งชิง การยึดติด
รัก คือ ความหวง ความอาวรณ์ และความเป็นเจ้าของ

สิ่งเหล่านี้ ล้วนคือ โมหะ "คือ การลุ่มหลง"
ใครก็ตามต่อให้เก่ง หรือเป็นใครที่ยิ่งใหญ่มาจากไหนก็แล้วแต่
เจอ โมหะ เข้าไป รอดยากทุกคน
ดังนั้น การดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งรอบด้านล้วนมีแต่กิเลส
มีแต่ความอยาก มีแต่ความดิ้นรน มีแต่การแย่งชิง และขวนขวาย
เพื่อให้ชีวิตของตนนั้นได้อยู่บนพื้นฐานชีวิตที่ีมั่นคง
มีชื่อเสียง มีลาภยศ มีความเด่นดัง มีความคล่องตัว

จะมีใครบ้างที่สามารถปลด และปลงได้ บนพื้นฐานแห่งความเสียสละ
ชีวิตมนุษย์นี้สั้นนัก มัวดิ้นรน ยึดติดอยู่กับสิ่งเร้ารอบตัว
กว่าจะรู้ตัว หรือได้สติอีกครั้งก็เจ็บจนเกินที่จะสามารถทนได้

อยากหลุดพ้นจากภาวะเหล่านี้หรือไม่

ถ้าอยาก จงจดจำไว้ว่า "ความรัก คือ การเสียสละ"

และเรารู้หรือไม่ว่า ต้องเสียสละอย่างไร

1. เราต้องเคารพในสิ่งที่คนรักของเราเลือก

2. เราต้องยินดีเมื่อคนรักของเราได้ในสิ่งที่เค้าต้องการ

โมหะนั้น เหมือนหมอกบาง ๆ ที่คอยกั้นไม่ให้เราสามารถมองเห็นความจริงที่เกิดขึ้น

ทำให้เรายึดติด ว่าตัวเรานั้นถูกเสมอ และสิ่งที่เราทำนั้นถูกที่สุด

คอยปิดกั้นไม่ให้จิตสำนึก หรือสัญชาตญาณคอยเตือนเราได้ในสิ่งที่เราได้กระทำ

กว่าจะรู้ตัวว่าโดน "โมหะ" เข้าครอบงำ ตอนนั้นสำหรับบางคน ก็สายเกินไปเสียแล้ว

การมี "สติ" เท่านั้นที่จะสามารถทำให้เรารู้ตัว และรู้ทัน ต่ออำนาจแห่งความลุ่มหลง

แต่วิธีจะฝึกสติให้เกิดกับเราตลอดเวลานั้น จำเป็นต้องมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างรวมกัน

นั่นคือ การทำบุญ การทำทาน การสวดมนต์ และการเจริญภาวนา

สิ่งเหล่านี้ ล้วนสอนให้เรามีสติอยู่กับตัว และไม่ปล่อยใจไปไกลเกินตัว

หนทางแห่งการฝึกฝน มันช่างยากเย็น แต่ไม่มีอะไรสามารถเอาชนะความเพียรของมนุษย์ไปได้