วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความจริงของ "ชีวิต"

เคยคิดฝันไว้ตั้งแต่เด็กว่า
อยากร่ำรวย อยากมีชื่อเสียง
อยากมีฐานะการเงินที่ดี
อยากมีหน้าตาในสังคม
อยากให้มีแต่คนชื่นชม

ระยะเวลาผ่านมาแล้วกว่า 30 ปี
ทุกอย่างไม่เป็นไปตามความฝัน
กว่าจะได้รู้ความลับของชีวิต
ก็เล่นเอาซะ แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน
เพราะมรสุมของชีวิตที่หนักหนาสาหัส

ผ่านมาแล้ว 2 ปีหลังจากได้รับรู้ว่า
จริง ๆ แล้วทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้
ล้วนเกิดมาเพื่อชดใช้เวรกรรม
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ตัวเราเองได้เคยทำไว้แล้วทั้งสิ้น

ได้โปรดอย่าไปถามใครเลยนะคะ
ถ้าหากมีคนทำให้เราเจ็บปวด มีความทุกข์
ท้อแท้ ผิดหวัง อกหัก ทรยศ โศกเศร้า
หึงหวง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้น
จากบุคคลที่เราเรียกเค้าว่า "คนที่รักยิ่ง"
ซึ่งอาจจะรักมากกว่าบุพการีของตนเองด้วยซ้ำไป

แต่สำหรับดิฉันบุคคลเหล่านี้
ดิฉันเรียกเค้าว่า "เจ้ากรรมนายเวร"
เพราะถ้าเราไม่เคยทำกรรมกับใครไว้ก่อน
บอกได้เลยนะคะว่า ไม่มีใครสามารถมาสร้างความเจ็บช้ำให้กับเราได้หรอกค่ะ
ทำไมคนที่เดินถนนผ่านไปผ่านมา
ถึงไม่สามารถก่อทุกข์ให้กับเราได้เลยแม้เพียงเศษเสี้ยว
แต่กับคนบางคนทำให้เราเป็นทุกข์แทบล้มประดาตาย

อย่าต่อเวร อย่าต่อกรรม กันอีกต่อไปเลยนะคะ
อย่าไปอาฆาต อย่าไปเอาคืน อย่าไปสาปแช่ง กันอีกเลยค่ะ
คงไม่มีใครอยากเจ็บปวดแบบนั้นอีกแล้วใช่ไม๊คะ
คงไม่มีใครอยากทรมานแบบนั้นอีกแล้วใช่ไม๊คะ
ขอให้ความแค้น ความอาฆาต ความพยาบาท
มันจบลงที่เราเถ่อะค่ะ  การให้อภัย คือทานสูงสุดแล้วนะคะ

มนุษย์ เป็น ชาติภพเดียวที่จะทำให้เราทุกคนหลุดพ้น
ลด ละ เลิก ความอยากได้ใคร่ดี ความอยากมีอยากเป็นเถ่อะนะคะ
คำของพ่อหลวงที่สอนไว้ "เพียงพอ และพอเพียง"
สิ่งต่าง ๆ ผ่านเข้ามาแล้วมันก็ต้องผ่านไปค่ะ
ไม่มีอะไรจีรังนะคะ วันนี้เราสุข พรุ่งนี้เราทุกข์

ความสุขก็ไม่ได้อยู่กับเรานาน
ความทุกข์ก็ไม่ได้อยู่กับเรานาน
ความรักก็ไม่ได้อยู่กับเรานาน
ความแค้นก็ไม่ได้อยู่กับเรานาน
แม้แต้ความหนุ่มสาวยังอยู่กับเราได้ไม่นาเลยค่ะ
ทุกอย่างบนโลกนี้มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และต้องดับไปเสมอนะคะ




วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

กรรมทางด้านการเงิน

กรรมทางด้านการเงิน เกิดจาก
การที่เจ้าของดวงชะตาเคยไปหยิบยืมเงินจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายไว้
แล้วไม่ใช้คืนก็ดี เคยใช้คืนแล้วก็ดี แต่อาจจะไม่หมด
เคยไปคดโกง เคยไปขโมย เคยไปฉ้อโกงเค้าไว้
และทำให้เค้าผูกพยาบาท อาฆาตและจองเวรนะคะ

กรรมนี้จะส่งผลอย่างไรต่อเจ้าของชะตา
จะทำให้เจ้าของดวงชะตามีเหตุให้ต้องติดขัดในเรื่องของการเงิน
มีเงินเท่าไหร่ไม่เคยพอใช้ จะให้มีมาก หรือมีน้อยก็ตามที
ก็จะมีเหตุให้จำเป็นต้องใช้จ่ายออกไปอยู่เสมอ
ทั้งแบบที่จำเป็นต้องจ่าย กับแบบที่จำใจต้องจ่ายนะคะ

เจ้าของดวงชะตาจะไม่ถึงขั้นไม่มีจะกินนะคะ
แต่จะมีแบบติด ๆ ขัด ๆ พอมีเงินเข้ามาก็จะต้องจ่ายออกไปแทบจะทันที
จะเป็นอย่างนี้อยู่ไม่ตลอดเวลา ก็แทบจะสม่ำเสมอ
จนทำให้เกิดความเคยชิน และน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาเสมอ

วิธีการแก้ไขนะคะ
ควรทำบุญ ทำทาน สวดมนต์ ไหว้พระ บริจาคโลงศพ
หรือแม้แต่การให้อาหารสัตว์จรจัด หรือบริจาคทานนะคะ
แล้วอุทิศบุุญทั้งหลายที่เจ้าของดวงชะตาได้รับ
ให้ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรทางด้านการเงินที่กำลังส่งผลอยู่ในขณะนี้
ทำบ่อย ๆ นะคะ ทำให้เป็นนิสัยนะคะ
แล้วเรื่องต่าง ๆ จะค่อย ๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ไม่ใช่ว่าทำตูมเดียว ทีเดียวเยอะ ๆ
แล้วหายไป ไม่ทำอีกต่อไปเลย
ถ้าทำเช่นนั้น ขอบอกไว้เลยนะคะ ว่าไม่เห็นผลค่ะ
ต้องค่อย ๆ ทำนะคะ ทำไปเรื่อย ๆ ทำบ่อย ๆ เสมอ ๆ
แล้วทุกอย่างก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ

งานนี้ต่อให้มีเงินกองเป็นแสนเป็นล้าน
ก็จำเป็นต้องใช้ความเพียร และระยเวลาในการสั่งสมบุญ
เพื่ออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรนะคะ เพื่อให้เค้าอโหสิกรรมให้เราค่ะ
"ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูดกิเลสหายนะคะ"

การให้

หลายคนต้องการให้คนสนใจ ห่วงใย ใส่ใจ
แต่เคยถามตัวเองสักนิดไม๊คะ
ว่าก่อนที่จะเรียกร้องให้คนอื่นใส่ใจตนเองนั้น
คุณเคยใส่ใจผู้อื่นก่อนหรือไม่

กรรม

กรรม คือ การกระทำ
บุญ กับ กรรม มีคุณค่าเหมือนกันนะคะ
แต่ บุญต่อให้สร้างมากมายแค่ไหน
ทำได้แค่บั่นทอนให้กรรมได้บรรเท
าเบาบางลงเท่านั้น
ไม่สามารถทำให้กรรมชั่วเหล่านั้นสูญสลายหายไปได้
ทุกคนจำเป็นต้องรับผลของกรรมทั้งนั้นค่ะ

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แก้กรรมเรื่องการเงินกันดีกว่า

สำหรับใครก็ตามที่ต้องประสบพบเจอกับปัญหาเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน พบเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย
ประสบพบเจอแล้วกับวันที่ีมีเงินเหลือเฟือมากมายจนใช้ไม่หมด
หรือแม้แต่เงินที่จะทานข้าวยังหาไม่เจอ

เรารู้สึกบ้างไม๊ว่า ทำไมชีวิตเราจะต้องวนเวียนอยู่แค่นี้
มีเงินอยู่ 3 วัน เงินขาดมือ 2 วัน ต้องหมุนเงินอีก 7 วัน
เป็นอยู่อย่างนี้จนเหนื่อยใจ จนท้อแท้ จนต้องพึ่งพาหมอดู
บางครั้งวิธีแก้ไขจากหมอดูก็ช่วยเราได้นะคะ
แต่อยากให้จำไว้สักนิดนะคะ ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง
สักวัน วัฏจักรนี้ก็จะวนเวียนมาหาตัวเราอีกเสมอ

วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดเลยนะคะ
1. รู้จักวางแผนการใช้เงิน
(ไม่ต้องไปรอหวังเงินในอนาคต หรือเงินจากบัตรเครดิตนะคะ
เรามาลองดูกันสิว่า เงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือน มันพอไม๊
จะใช้ยังไงให้เพียงพอกับความจำเป็นของชีวิตนะคะ ไม่ใช่เพียงพอ
ต่อความต้องการของชีวิต เพราะชีวิตนี้มันต้องการตลอดแหล่ะค่ะ)

2. รู้จักเก็บเงิน
(ถ้าแม้แต่ตัวเองยังเก็บไม่ได้ ก็อย่าคิดเลยนะคะว่าจะมีวันที่เก็บเงินได้)

3. รู้จักทำบุญอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทางด้านการเงิน
(นี่คือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ถ้าเราวางแผนการเงินมาดี
เก็บเงินมาดี แต่ต้องเจอกับปัญหาที่คิดไม่ถึงอยู่ประจำสม่ำเสมอ ควรทำตามข้อนี้นะคะ)

4. สวดมนต์ค่ะ สวดคาถาเงินล้าน ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
(อย่างน้อย ๆ เลยคือสวดทุกวัน ๆ ละ 9 จบ แต่ถ้ายิ่งทำได้มาก
ยิ่งทำได้เยอะ ก็จะยิ่งดีกับตัวของเราเองนะคะ)

ทุกข้อที่บอกไปข้างต้น ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับตัวของเราเองทั้งนั้น
ว่าจะทำได้ไม๊ ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ มั่นใจว่าทำได้
ยังไงก็ทำได้ค่ะ คำว่า "เก็บเงินไม่อยู่" มันไม่มีหรอกนะคะ
ที่มันเก็บไม่อยู่ เพราะเรามัวแต่เอาเงินไปบำบัดความอยาก
ความต้องการต่าง ๆ ที่มันเกินความจำเป็น แค่นั้นเอง

เรื่องการเงิน จำเป็นต้อง ซื่อสัตย์กับตนเองนะคะ
ถ้าหากเรายังโกหกตัวเราเองอยู่ในเรื่องนี้
ต่อให้ชาตินี้ได้เงินเยอะแค่ไหน ก็ไม่มีวันพอหรอกค่ะ

การให้อภัย

สำหรับสังคมไทย ที่นับถือพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่
โดยปกติแล้วศาสนาพุทธ จะค่อยๆ กล่อมเกลาจิตใจของเรา
ให้มีความละเอียด ถี่ถ้วน รอบคอบ และรู้ทันปัญหา
เพียงแต่ถ้าเราจะเป็นคนดี นั่นไม่ได้แปลว่าเราจะต้องเป็นคนโง่นี่นา

การที่เรารู้จักให้อภัยผู้อื่น  ให้โอกาสผู้อื่น
นี่ไม่ได้แปลว่า "เราโง่" หรือ "เจ็บแล้วไม่จำ"
เพียงแต่นี่คือสิ่งที่หลาย ๆ คนทำได้ยากมาก ๆ เลยนะ
ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่สามารถให้อภัยผู้อื่น
หรือแม้แต่ให้โอกาสผู้อื่นแม้เพียงเล็กน้อย
นั่นถือว่าคุณก็เป็นคนนึงแล้วนะคะ
ที่สามารถเอาชนะใจตนเองได้แล้ว